มะเร็งลำไส้ใหญ่ รักษาหายไหม วิธีรักษาด้วยนวัตกรรมสมุนไพรใหม่

มะเร็งลำไส้ใหญ่ รักษาหายไหม ตรวจพบผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ รายใหม่ในประเทศไทย มากกว่า 20,000 รายต่อปี พบมากสำหรับผู้มีอายุ 50 ปีขึ้นไป อายุเฉลี่ยของคนไทย ที่ตรวจพบมะเร็งลำไส้ใหญ่ อยู่ระหว่าง 60-65 ปี และผู้มีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก จะมีความเสี่ยงมากกว่าคนโดยทั่วไป ซึ่งสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมในการกิน และสภาวะการเกิดท้องผูกรื้อรัง ในการตรวจพบส่วนใหญ่จะอยู่ในระยะที่ 4 ลุกลามแล้วยากต่อการรักษา ปัจจุบันสถาบันวิจัย NSPi ได้คิดค้นนวัตกรรมสารสกัดจากสมุนไพรเข้มข้น เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยมะเร็งและมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นแพทย์ทางเลือกและแพทย์ทางร่วม ช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้เร็วขึ้น ดังนั้นจึงต้องทำความเข้าใจ มะเร็งลำไส้ใหญ่ รู้ทันป้องกันได้

คุณเล็ก อายุ 54 ปี อาชีพวิศวกร ชอบทานเนื้อสัตว์ อาหารปิ้งย่าง มีอาการปวดท้อง ท้องผูก ถ่ายมีเลือดปน คลำพบก้อนในช่องท้อง ไปโรงพยาบาลตรวจพบว่าเป็น มะเร็งลำไส้ใหญ่ ไม่อยากเคมี ฉายแสง อยากรักษาด้วยแพทย์ทางเลือก อ่านเจอในอินเตอร์เนต สมุนไพรฟื้นฟู ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ เลยลองสั่งไปทาน 1 เดือน ทานได้ 5 วัน รู้สึกว่ามีเรี่ยวแรง ไม่อ่อนเพลีย การขับถ่ายดีขึ้น อาการปวดท้องลดน้อยลง หลังจากทานครบ 1 เดือน อาการต่างๆดีขึ้นมาก ไปตรวจวัดค่ามะเร็งลำไส้ใหญ่ CEA ลดลงไปมาก ค่าปกติ2.5-5 ng/mL.ปัจจุบันทานชุดต้านมะเร็งลำไส้ใหญ่ต่อเนื่อง เพื่อให้ค่า CEA ลดลงเป็นปกติ

*ผลลัพธ์แล้วแต่บุคคล*

อาการมะเร็งลำไส้ใหญ่

ถ่ายเป็นเลือด มีเลือดปนหรือเคลือบกับอุจจาระ แตกต่างจากริดสีดวงทวารที่มีเลือดหยดจากการอุจจาระ
ท้องผูกสลับกับท้องเสีย
ก้อนอุจจาระออกมาก้อนเล็กลีบ สาเหตุจากลำไส้ใหญ่มีเนื้องอกตีบตัน ทำให้การขับถ่ายลำบาก
ไม่ผายลม ก้อนมะเร็งอุดตันในลำไส้ใหญ่ ทำให้ไม่สามารถผายลมออกมาได้ หากปล่อยใว้เรื้อรังเป็นเวลานาน ทำให้แก๊สดันอาจทำให้ลำไส้ใหญ่แตก จนเสียชีวิตได้
คลำเจอก้อนในท้อง เป็นก้อนอุจจาระที่มีลักษณะค่อนข้างแข็ง
น้ำหนักลดฮวบ ทานอาหารเท่าเดิมแต่น้ำหนักลดฮวบฮาบ

การตรวจวิจัยอย่างละเอียด โดยการส่องกล้องเข้าไปทางรูทวาร เพื่อตรวจดูลักษณะภายในของลำไส้ใหญ่ เพื่อดูว่ามีส่วนใดของลำไส้ที่มีเนื้องอก เช็คขนาดและระยะของมะเร็งว่าลุกลามหรือยัง และตัดชิ้นเนื้อเพื่อไปตรวจค่าค่ามะเร็งลำไส้ใหญ่รวมถึงการตรวจอัลตราซาวน์ด้วย ค่าใช้จ่ายส่องกล้องมะเร็งลำไส้ใหญ่ของโรงพยาบาลเอกชนประมาณ 18,000-19,500 บาท

ค่ารักษา โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ทางการแพทย์แผนปัจจุบัน ค่าฉายรังสี 28 ครั้งๆละ 2,500 บาท รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เป็นเงิน 103,000 บาท ค่าผ่าตัดลำไส้ส่วนที่เป็นมะเร็งออก บางรายอาจให้เคมีบำบัดหลังผ่าตัด ค่าใช้จ่าย 427,000-1,627,000 บาท

ทำไมผู้มะเร็งลำไส้ใหญ่ หลังจากผ่าตัดต่อลำไส้แล้ว สามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกกี่ปี เป็นคำถามที่ผู้ป่วยไม่กล้าที่จะถาม หากผู้ป่วยมะเร็งลำไส้โชคร้าย มักจะเกิดการลุกลามของเซลล์มะเร็ง เนื่องจากเซลล์ต้นกำเนิดของเซลล์มะเร็งยังไม่ได้ถูกทำลาย และยังเกิดอนุมูลอิสระ ทำให้เซลล์มะเร็งลุกลามไปยังอวัยวะส่วนต่างๆของร่างกายโดยเฉพาะที่ ตับ กลายเป็น มะเร็งตับ ทำให้เสียชีวิตในที่สุด

แพทย์ทางเลือกใหม่ นวัตกรรมสารสกัดสมุนไพรฟื้นฟู ผู้ป่วยโรค มะเร็งลำไส้ใหญ่ คิดค้นโดยสถาบันวิจัย NSPi โดย ดร.ณสพณ โพธิ์วิจิตร และทีมงานนักวิจัยกว่า 30 ท่าน

สารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ ที่ช่วยฟื้นฟูผู้ป่วย โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ มีดังนี้

อาชิตองค์ โกลด์ : สารสกัดจากสมุนไพรรวม 6 ชนิด ได้แก่ คาวตอง,ใบหม่อน,มะระขี้นก,ชาเขียว,มะขามป้อม,ขมิ้นชัน มีงานวิจัยพบว่าสารสกัดจากสมุนไพรดังกล่าว ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคต่างๆ และยังช่วยปรับสมดุลย์น้ำตาลในเลือด คอเรสเตอรอล สร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง
กรีนเคอมิน : สูตรใหม่เข้มข้น มีสารสกัดจากขมิ้นชั้น เคอร์คูมินอยด์ ที่สามารถละลายน้ำได้ 16,000 เท่า และยังดูดซึมได้กว่า 90% มีงานวิจัยพบว่าสารสกัดดังกล่าว ช่วยในการลดอาการท้องอิด อาหารไม่ย่อย ดูแลโรคกระเพาะอักเสบและกรดไหลย้อน
โอลิซา คิวเทน : มีแกรมม่า ออริซานอล สูงถึง 100 มก.,เซวามิน,โคเอ็นไซม์ คิวเท็น มีงานวิจัยพบว่าสารสกัดดังกล่าว ช่วยในการช่วยลดคอเรสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ ช่วยให้นอนหลับลึก ช่วยในการไหลเวียนของเลือด
มัลวิน : ได้รวมเอาวิตามินที่ร่างกายต้องการไว้ใน 1 เม็ด 1,000 มก.ประกอบด้วย วิตามิน B1,B2,B5,B6,B12,C,Selenium วิตามินรวม มีงานวิจัยพบว่าสารสกัดดังกล่าว ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
ริดจิ : สารสกัดจากสมุนไพร สูตรโบราณ 6 ชนิด มีงานวิจัยพบว่าสารสกัดดังกล่าว ช่วยในการลดการอักเสบของริดสีดวงทวารและทวารหนัก กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต การขับถ่ายง่าย
แฮปปี้ไคโช : สารสกัดจากสมุนไพร เสริมอาหารให้จุลินทรีย์ prebiotics ช่วยให้ลำไส้สมดุลย์ ขับถ่ายง่าย ไม่มีส่วนผสมของยาระบาย ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ probiotics ที่ดีในลำไส้
สิงหโมรา : สารสกัดจากไบ่โชหู จากประเทศจีน สารสกัดจากหัวหอม มีงานวิจัยพบว่าสารสกัดดังกล่าว ช่วยในการ ต่อต้านอนุมูลอิสระ เคอร์เซติน ช่วยในการยับยั้งเซลล์มะเร็ง ช่วยให้เซลล์มะเร็งฝ่อ เป็นตัวยาที่สำคัญในการฟื้นฟูมะเร็ง

ข้อแนะนำ ให้ผู้ป่วยทาน อาหารผู้ป่วยมะเร็ง Di8Pro ซึ่งเป็นเวย์โปรตีนจากพืชสกัด มีสารอาหารครบถ้วนพร้อมทั้งวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย อีกทั้งยังสามารถดูดซึมไปใช้งานได้ทันที มีงานวิจัยพบว่าสารสกัดดังกล่าว ช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ตับที่เสียได้อีกด้วย และยังทดแทนอาหารได้ 1 มื้อ ช่วยให้ผู้ป่วยมีเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้กับโรคร้ายนี้ได้

วิธีรับประทาน : ผู้ดูแลผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ โทร.สอบถามผู้เชี่ยวชาญถึงวิธีดูแลผู้ป่วยอย่างละเอียดและการรับประทานอาหารเสริม ที่ถูกต้องครบถ้วน เพื่อให้โด้ชที่เพียงพอต่อการออกฤทธิ์ในการฟื้นฟู ระบบต่างๆของร่างกายให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ผู้ป่วยถามว่าทำไมถึงทานหลายตัว เพราะอาหารเสริมแต่ละตัวประกอบด้วยสารสกัดจากสมุนไพรแต่ละชนิด ซึ่งทำหน้าที่ฟื้นฟูร่างกายในแต่ละส่วนกัน ร่างกายโดยรวมจึงแข็งแรงขึ้นเร็ว

กรณี มะเร็งลำไส้ใหญ่ ลุกลามแพร่กระจาย ไปยังอวัยวะส่วนอื่นๆ การใช้เฉพาะเจลประคบเย็นจึงไม่เพียงพอ ให้นำภาชนะขนาดใหญ่ที่สามารถลงไปนั่งหรือนอนได้ โดยใส่น้ำและน้ำแข็ง 1 กระสอบลงไปเพื่อให้น้ำเย็น แล้วให้ผู้ป่วยลงไปแช่ในน้ำ ให้น้ำเย็นถึงบริเวณที่มะเร็งลุกลามไปถึง เช่นปอด ให้แช่ถึงราวนม โดยแช่ประมาณ 10-15 นาที แล้วพัก 15 นาที แล้วลงไปแช่ใหม่ ทำวนไปอย่างนี้อย่างน้อย วันละ 5-6 รอบ โดยผู้ป่วยจะรู้สึกเย็นเจี๊ยบในช่วงแรกให้อดทนเอา หลังจากนั้นร่างกายจะปรับตัวได้ วิธีนี้ทางการแพทย์ของญี่ปุ่นเขาเรียก”วิธีรีดน้ำเหลือง“โดยใช้ความเย็น เมื่ออวัยวะถูกความเย็นเข้าไป จะทำให้เกิดการหดตัว ไขมันที่เกาะหุ้มอยู่จะค่อยๆหลุดออกไป ช่วยทำให้การหมุนเวียนของน้ำเหลืองดีขึ้น ระบบขับถ่ายของเสียทำงาน ช่วยให้ตับ-ไต และถุงน้ำดีทำงานได้ดีขึ้น รวมถึงร่างกายดึงเอาไขมันสีน้ำตาลมาเผาผลาญแคลอรี่เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นได้อีกด้วย เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของ ยารักษามะเร็ง ส่งผลให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการโรคหัวใจให้ระมัดระวังการแช่น้ำเย็นต้องมีผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด

มะเร็งลำไส้ใหญ่ ดร.ณสพน โพธิ์วิจิตร ผู้ก่อตั้งสถาบันวิจัยชั้นนำของไทย(NSPi) นักวิจัยไทยคนแรกของโลก ที่คิดค้นสารสกัดจากขมิ้นชัน มีผลงานชนะเลิศ 9 เหรียญทองระดับโลกได้ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ใว้สั้นๆเข้าใจง่ายมาก ดังนี้ครับ “การใช้ความเย็นเป็นการทำให้หลอดเลือดและท่อน้ำเหลืองหดตัว บีบให้น้ำเหลืองออกมา แล้วย้อนกลับสู่เส้นเลือด เพื่อขจัดทิ้งกลายเป็นปัสสาวะขับออกโดยไต ทำให้สาร inflammatory cytokines และสารอื่นๆที่ไม่ดีทั้งหลายถูกขจัดออกไปเปรียบเสมือนกับการถ่ายน้ำมันเครื่องของรถ”

ในประเทศไทยเรา ศาสตร์ความรู้เรื่องนี้ยังไม่มีใครรู้ หรือรู้เฉพาะในวงแคบ ฉะนั้นหากท่านใดได้อ่านวิธีรีดน้ำเหลืองโดยใช้เจลประคบเย็น หรือการนอนแช่น้ำเย็น โปรดบอกต่อ แชร์ต่อถึงผู้เจ็บป่วยท่านอื่นๆ เพื่อเป็นประโยชน์ในการรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ต่อไป